Take It easy-Eagles
ชอบมากเพลงนี้
Wednesday, February 16, 2011
Saturday, February 12, 2011
เพลงนี้มีความหมายดีจริงๆ ชอบมากๆ
เพลง Live and Learn
ขับร้องโดย คุณกลมา สุโกศล
แต่งโดย บอย โกสิยพงษ์
ฟังไม่เคยเบื่อเลย
แล้วจะหาเพลงดีๆ มาอีก หรือแนะนำเพลงมาได้ที่ welfarepolice@gmail.com ได้นะครับ
ขับร้องโดย คุณกลมา สุโกศล
แต่งโดย บอย โกสิยพงษ์
ฟังไม่เคยเบื่อเลย
แล้วจะหาเพลงดีๆ มาอีก หรือแนะนำเพลงมาได้ที่ welfarepolice@gmail.com ได้นะครับ
Friday, February 11, 2011
อีกหนึ่งของอาการปวดท้อง อาจมาจากโรคที่เรียกว่า โรคกระเปาะลำไส้อักเสบ (โรคนายก)
อาการปวดท้องเรื้อรัง บางครั้งรุนแรง อาจมาจากสาเหตุอื่น ไม่เพียงแต่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบเท่านั้น ผมไปเจอข้อมูลของโรคที่เรียกว่า "โรคนายก หรือโรคกระเปาะลำไส้" (Diverticulosis)
สาเหตุ ไม่ทราบ อาจสัมพันธ์กับภาวะท้องผูก พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ
อาการแสดง ไม่ปรากฏอาการ พบโดยบังเอิญ อาจมี ท้องอืด ซึ่ง อาจเกิดจากโรค หรือเกิดจากภาวะทั่วไปของผู้สูงอายุ
การตรวจพบ จาก การX-Ray ลำไส้ใหญ่ ( Barium Enema ) หรือการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ( Colonoscope )
การรักษา ในรายที่ยังไม่มีโรคแทรกซ้อน แนะนำให้ผู้ป่วยทานอาหารที่มีกากมากๆ หรือ รับประทานยาเพิ่มกาก ( fiber ) เพื่อไปมวลอุจจาระให้นิ่มลง หลีกเลี่ยงการใช้ยาระบายที่แรงๆ เพราะอาจจะทำให้โรคนี้กำเริบได้
โรคแทรกซ้อน
1.อาจมีการอักเสบที่บริเวณกระเปาะในลำไส้ เป็นครั้งคราว ซึ่งอาจจะรักษาหายโดยการใช้ยาปฏิชีวนะ
2.อาจตกเลือด หรือถ่ายเป็นเลือด โดยทั่วไปรักษาแบบอนุรักษ์ เพื่อให้การตกเลือดหายไป น้อยรายที่ต้องรักษาแบบผ่าตัด
3.บางกระเปาะอาจมีลำไส้ทะลุ ( Perforations ) ซึ่งรักษาโดยการผ่าตัด
4.บางกระเปาะอาจจะทะลุ เข้าไปในอวัยวะข้างเคียง ( Fistula ) อันได้แก่ลำไส้เล็ก ,กระเพาะปัสสาวะ
5.บางกระเปาะอาจจะทะลุ และเป็นฝี (Abscess ) และตามด้วยเป็นหนองในช่องท้อง ( Peritonitis)
ไม่มีรายงานว่า โรคนี้จะเปลี่ยนไปเป็นมะเร็งของลำไส้
หมายเหตุ โรคนี้พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ 20- 30 % ในผู้ที่มีอายุ 60 – 65 ปีขึ้นไป นานๆครั้งจึงพบโรคแทรกซ้อนที่รุนแรง ที่จำเป็นต้องรักษาโดยผ่าตัด อาจมีไม่ถึง 1 %
ศัลย์แพทย์โรงพยาบาลธนบุรี
ที่มาข้อมูล เว็บไซต์โรงพยาบาลธนบุรี
โรคกระเพาะอาหารที่ไม่มีแผล ( Non – ulcer dyspepsia)
ในปัจจุบันนี้ผมสังเกตุเห็นหลายคนมีอาการปวดท้องเรื้อรัง เป็นมานานแล้ว ไปหาหมอแต่ก็ไม่หายขาดเสียที เลยไปศึกษาข้อมูลดูพบบทความนี้มีประโยชน์ จึงเอามาเผยแพร่ โดยเฉพาะท่านที่รับประทานอาหารไม่ค่อยเป็นเวลา ทำงานหนัก มีอาการเครียด บางครั้งไปหาหมอก็ไม่ทราบสาเหตุเสียทีว่าเป็นอะไร กว่าจะทราบก็หมดไปหลายตังค์ เอาล่ะครับเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
คนทั่วไปมักจะเข้าใจว่าอาการปวดท้องหรือไม่สบายในท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่โดยเฉพาะที่มีอาการเป็นเรื้อรังมานานว่าเป็นโรคกระเพาะอาหาร ซึ่งมักคิดว่าเป็นแผลในกระเพาะอาหารแท้จริงแล้วอาการปวดท้องอาจเกิดจากโรคอื่นๆ ภายในช่องท้องอีกมากมาย เช่น โรคกระเพาะอาหารที่ไม่มีแผล โรคระบบทางเดินน้ำดี โรคตับอ่อน เป็นต้น โรคกระเพาะอาหารเป็นกลุ่มโรคที่พบบ่อย ที่สำคัญได้แก่ โรคกระเพาะอาหารที่ไม่มีแผลหรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคแผลในกระเพาะอาหาร เมื่อดูคนไข้ที่มาโรงพยาบาลด้วยเรื่องโรคกระเพาะอาหาร จะพบว่าผู้ป่วยอาจมาด้วยเรื่องอาการปวดท้องเรื้อรังเป็นๆ หายๆ หรือรู้สึกไม่สบายในท้องบริเวณลิ้นปี่ บางคนอาจมีอาการอืดแน่นท้อง แสบลิ้นปี่ มีเรอแน่น คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วยได้ เมื่อดูสาเหตุของโรคจะพบว่าข้อมูลจากโรงพยาบาลศิริราชแสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลด้วยเรื่องปวดท้อง ไม่สบายในท้องบริเวณลิ้นปี่จำนวนเกือบ 3 พันราย มีสาเหตุมาจากโรคกระเพาะอาหารที่ไม่มีแผลหรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบประมาณ 62 % เป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก 21 % เป็นโรคหลอดอาหารอักเสบจากกรดไหลย้อน 5 % มะเร็งกระเพาะอาหารประมาณ 2 % และที่เหลือเป็นโรคอื่นๆอีก 9.8 % อาทิ โรคนิ่วในถุงน้ำดี , โรคเกี่ยวกับตับอ่อน เป็นต้น จะเห็นว่าปัญหาของโรคกระเพาะอาหารนั้นส่วนใหญ่เป็นโรคกระเพาะอาหารที่ไม่มีแผลหรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นส่วนใหญ่ จึงมีความน่าสนใจที่จะมาทำความรู้จักกับโรคนี้ว่าเป็นอย่างไร โรคกระเพาะอาหารที่ไม่มีแผลหรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบ คนไข้ในกลุ่มนี้อาจจะมีอาการปวดจุกแน่นท้อง ไม่สบายท้อง อืดแน่นท้อง เรอ ย่อยลำบาก แสบยอดอก คลื่นไส้ โดยอาการอาจจะสัมพันธ์หรือไม่สัมพันธ์กับมื้ออาหารก็ได้ โดยมีอาการเรื้อรังเป็นมานาน อาการเป็นๆ หายๆ บางรายอาจจะรู้สึกว่าอาการดีขึ้นเอง หรือดีขึ้นหลังได้ยาลดกรด บางรายจะมีอาการคล้ายผู้ป่วยที่เป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร โดยผู้ป่วยในกลุ่มนี้อาจมีอาการได้ดังต่อไปนี้ - ปวดหรือจุกแน่นท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ หรือ หน้าท้องช่วงบน เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด อาจเป็นเวลาท้องว่าง หรือเวลาหิว อาจมีอาการเป็นเฉพาะบางช่วงเวลาของวัน - อาการปวดแน่นท้อง อาจจะบรรเทาได้ด้วยอาหารหรือยาลดกรด - อาการปวดมักจะเป็นๆ หายๆ โดยมีช่วงเว้นที่ปลอดอาการค่อนข้างนาน เช่น อาจปวดอยู่ 1-2 สัปดาห์ แล้วหายไปหลายเดือนจึงกลับมาปวดอีก - ส่วนใหญ่มักจะไม่ปวดแน่นท้องกลางดึกหลังจากที่หลับไปแล้ว - อาจจะมีอาการสัมพันธ์กับความเครียด - แม้จะมีอาการเรื้อรังเป็นปี สุขภาพโดยทั่วไปจะไม่ทรุดโทรม - โรคนี้จะไม่กลายเป็นมะเร็ง แม้จะเป็นๆ หายๆ อยู่นานกี่ปีก็ตาม โดยทั่วๆไป ผู้ป่วยจะมีสุขภาพดี ไม่ควรมีอาการของการเสียเลือด เช่น อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ น้ำหนักลด ปวดท้องรุนแรง หรือมีไข้ สาเหตุของโรค ในปัจจุบัน เรายังไม่ทราบสาเหตุของโรคที่แท้จริงเชื่อว่าอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นเรื้อรัง คือ 1. การบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม 2. ความไวของกระเพาะอาหารและลำไส้เปลี่ยนแปลงไป 3. มีสิ่งกระตุ้นจากภายนอก อาทิ อาหาร, ยา เป็นต้น 4. เชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า เฮลิโคแบกเตอร์ ไพลอรี่ 5. สภาวะจิตใจ เช่น ความเครียด โรคกระเพาะอาหารอักเสบ เป็นการอักเสบของเยื่อบุด้านในกระเพาะอาหารทั้งหมด หรือบางบริเวณเท่านั้น แบ่งเป็น 1. โรคกระเพาะอาหารอักเสบชนิดเฉียบพลัน หมายถึง โรคที่เป็นในระยะสั้นๆ ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ก็หาย อาการสำคัญคือ จะปวดท้องหรือจุกแน่นบริเวณใต้ลิ้นปี่ มักเป็นเวลากินอาหาร หรือหลังอาหารเล็กน้อย คลื่นไส้อาเจียน ในรายที่รุนแรง จะมีอาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายอุจจาระสีดำได้ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย สาเหตุที่พบบ่อย คือ จากอาหารเป็นพิษ พิษสุรา และจากยาที่มีฤทธิ์ระคายเยื่อบุกระเพาะอาหาร เช่น ยาแอสไพริน และยาแก้โรคกระดูกและข้ออักเสบ 2. โรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง หมายถึง โรคที่เป็นนานเป็นเดือนหรือเป็นปี ผู้ป่วยโรคนี้มักจะมีอาการของโรคเป็นแบบเรื้อรัง เป็นๆ หาย ๆ การใช้ยาจะช่วยอาการให้ดีขึ้นในผู้ป่วยบางราย บางรายแม้ไม่ได้ใช้ยาอาการก็ดีขึ้นเอง แต่ไม่พบการเกิดโรคร้ายหรือโรคอื่นๆแตกต่างไปจากคนปกติทั่วๆไป หลักการปฏิบัติตัว พึงระลึกไว้เสมอว่า โรคกระเพาะอาหารที่ไม่มีแผลหรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบ เป็นโรคเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ มักไม่หายขาดตลอดชีวิต ผู้ป่วยอาจมีความจำเป็นต้องใช้ยาบางช่วง หรือใช้ยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ บางรายอาจใช้ยาตามอาการที่มีหรืออาจกินยาเป็นเวลาหลายๆปี โดยทั่วไปแพทย์จะให้ยาผู้ป่วยเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์แล้วติดตามดูอาการ ร่วมกับการแนะนำการปฏิบัติตัว ซึ่งอาจจะช่วยลดอาการได้ดังต่อไปนี้ - กินอาหารอ่อน ย่อยง่าย - กินอาหารตรงตามเวลาทุกมื้อ - กินอาหารจำนวนน้อยๆ แต่กินให้บ่อยมื้อ ไม่ควรกินจนอิ่มมากในแต่ละมื้อ - หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด สุรา ![]() - งดสูบบุหรี่ ![]() - งดการใช้ยาแก้ปวด แอสไพริน และยาแก้โรคกระดูกและข้ออักเสบทุกชนิด - ผ่อนคลายความเครียด กังวล พักผ่อนให้เพียงพอ - กินยาลดกรด หรือยารักษาแผลกระเพาะอาหาร - ถ้ามีอาการของภาวะแทรกซ้อน ต้องรีบไปพบแพทย์ ขอให้กำลังใจสำหรับการปฏิบัติตัวและอวยพรให้ว่างเว้นจากอาการของโรคกลุ่มนี้หรือไม่ก็มีโอกาสน้อยที่สุดครับ ขอขอบคุณที่มาของบทความ นพ.สมชาย ลีลากุศลวงศ์ ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลธนบุรี |
แจ้งข่าวเล่าความ
ก่อนอื่นก็ขอสาธยายที่มาที่ไหของของบลอกนี้หน่อยนะครับ ด้วย งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กองสวัสดิการ สำนักงานกำลังพล อยากจะมอบข้อมูลหรือสาระดีแก่เพื่อนข้าราชการตำรวจทุกท่าน เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ หรือการใช้ชีวิตประจำวัน โดยข้อมูลต่างๆ ได้ผ่านการคัดสรรแล้วว่าเป็นประโยชน์โดยการหาข้อมูลของงานเทคโนโลยีฯ ซึ่งทุกท่านไม่ต้องไปเสียเวลาหาข้อมูล และหากท่านใดอยากจะทราบเกี่ยวกับเรื่องใดก็สามารถส่งหัวข้อมาให้ทางงานเทคโนโลยีฯ หาข้อมูลแล้วนำมาเผยแพร่ต่อก็ได้นะครับ และหากท่านใดมีข้อมูลหรือบทความดีๆ อยากจะเผยแพร่ต่อก็สามารถส่งมาได้ที่อีเมล welfarepolice@gmail.com ได้นะครับ ซึ่งทางงานเทคโนโลยีฯ จะได้นำบทความมาโพสให้อ่านกันเรื่อยๆ ครับ
ทางงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบลอกนี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนข้าราชการตำรวจทุกท่านไม่มากก็น้อย และหากมีข้อบกพร่องประการใด ก็ขออภัยล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ด้วย
พ.ต.ต.วรพล บุญสิงมา
สารวัตร ฝ่ายอำนวยการ กองสวัสดิการ
(งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร)
ทางงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบลอกนี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนข้าราชการตำรวจทุกท่านไม่มากก็น้อย และหากมีข้อบกพร่องประการใด ก็ขออภัยล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ด้วย
พ.ต.ต.วรพล บุญสิงมา
สารวัตร ฝ่ายอำนวยการ กองสวัสดิการ
(งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร)
Subscribe to:
Posts (Atom)